History Of Rayban




  ประวัติ Rayban 
     นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2480 เรย์แบนได้ถือกำเนิด และผลิตแว่นกันแดดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก   ในครั้งนั้นเรย์แบนนำเสนอรูปแบบที่เป็นหนึ่งเดียว มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระ กล้าหาญ และเสรี นับแต่นั้นเรย์แบนได้สร้างความเชื่อถือในใจของผู้สวมใส่ และเป็นผู้นำในการผลิตแว่นกันแดดของโลกตลอดมา โดยจะเห็นได้ว่าความสำเร็จของเครื่องหมายทางการค้า เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในด้านสไตล์และคุณภาพ
     การผลิตในช่วงแรกนั้น  ได้ผลิตและวิจัยโดยบริษัทบัสแอนรอม และเพื่อให้กับทางกองทัพอากาศสหรัสอเมริกาในช่วงนั้นจึงได้ผลิต เป็นเลนส์ N-15 ในช่วง 30 ปี ที่ผ่านและได้เปลี่ยน เป็น เลนส์ G-15 จากสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสายตามนุษย์ และลดการผิดเพียนของสีได้น้อยที่สุด จึงได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รุ่นที่โด้งดังเช่น ทรงAVIATOR     (ทรงนักบิน) และในช่วงแรกนี้เองก็ได้ผลิตที่ USA เท่านั้น
           
      หลังจาก ปี 1999 ทางเรย์แบนก็ได้เปลี่ยน ฐานผลิตมาเป็นที่ อิตาลี และได้ทำการผลิตแว่นและเลนส์เองโดยไม่ได้ ให้ทาง บริษัท บัสแอนรอม ผลิตต่อ ดังนั้นในช่วงที่ บริษัท บัสแอนรอม ผลิตนั้น ใด้ใช้ชื่อย่อเป็น BL และก็เปลี่ยน เป็น RB หลังปี 1999 เป็นมา ต่อมาก็ได้มีการผลิตเพิ่มเติมที่ประเทศจีนในส่วนของแว่นสายตาเป็นส่วนมา และ
แว่นกันแดดเป็นบางส่วน

RayBan Wayfarer                                           
      Wayfarer เป็นแบบแว่นกันแดดที่ขายดีมากที่สุดแบบหนึ่งของ Ray Ban ซึ่งออกแบบขึ้นมาโดย Raymond Stegeman นักออกแบบจากบริษัท Bausch and Lomb (บริษัทแม่ของ Ray Ban) ในปี 1952 ซึ่งในยุคนั้นได้ดาราฮอลลีวู๊ดชื่อดังสวมใส่ออกงานต่างๆอย่างเช่น Marilyn Monroe, Audrey Hepburn, และ James Dean ทำให้แว่นกันแดด Wayfarer ได้รับความนิยมแบบสุดๆเลยทีเดียวครับ
      ปัจจุบัน Wayfarer ได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่งจากดาราฮอลลีวู๊ดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างเช่น Lindsay Lohan, Kirsten Dunst, Tom Cruise และอีกหลายๆคน...

 แว่นกันแดด เสื้อเกราะของดวงตา
 
     แสง แดด เป็นพลังงานธรรมชาติที่ให้ประโยชน์คุณาประการ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ภายในบ้าน จนถึงงานประดิษฐ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับชาติ แต่อย่างไรก็ดีเปลวแดดที่แผดเผาเหล่านี้ก็มีโทษต่อมนุษย์ เป็นอันตรายต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง หรือแม้กระทั่งดวงตาก็ต้องแบกรับภาระความเสี่ยงนี้ไม่แตกต่างกัน 


     จากลักษณะภูมิประเทศนั้น ประเทศไทยของเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรทำให้โดยรวมจะได้รับแสงแดดมากโดยเฉพาะเวลาจาก 10 โมงเช้าไปจนถึงบ่าย 4 โมง และเมื่อบวกกับช่วงเวลาที่ประเทศไทยหันหน้าตรงกับดวงอาทิตย์ในฤดูร้อนก็ยิ่ง ทำให้ดีกรีความร้อนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการเพิ่มการป้องกันแสงแดดให้มากขึ้นนั่นเอง

      สำหรับ วิธีการลดอัตราเสี่ยงทางด้านร่างกาย และผิวหนังนั้น นอกจากจะหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด ใช้ร่ม หรือหมวกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง และควรทาครีมกันแดดทาทุกครั้งที่จะออกแดด โดยเลือกตัวเลขค่าป้องกันแสงแดดที่เรียกว่า SPF สูงเกิน 15 เพื่อจะได้ป้องกันแสงแดดอย่างเต็มที่

     ส่วน ดวงตาก็เช่นกัน กล่าวคือให้หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับดวงอาทิตย์โดยตรง และถ้าให้ดีควรหาแว่นตากันแดดมาสวมใส่ทุกครั้งที่ออกสู่กลางแจ้ง ซึ่งข้อดีของแว่นตากันแดด ไม่เพียงลดระดับแสงที่มากระทบดวงตาให้น้อยลงเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุของตาผิดปกติ อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคตาต้อเนื้อ ต้อกระจก และเร่งความเสื่อมสมรรถภาพของจอตาได้

     ปัจจุบัน มีแว่นกันแดดให้ 
เลือกมากมาย แต่จุดสำคัญนั้นอยู่ที่การเลือกเลนส์ ซึ่งมาตรฐานขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้กำหนดไว้ว่า แว่นกันแดดที่ได้มาตรฐานในการป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตนั้น อย่างน้อยต้องสามารถป้องกัน 95% ของ UV-A และ 99% ของ UV-B ไม่ให้ผ่านเลนส์เข้าสู่ดวงตาได้



      เลนส์ แต่ละประเภทก็มีประโยชน์และการใช้งาน ที่แตกต่างสถานะกัน ยกตัวอย่าง เลนส์โพลารอยด์ นั้นมีส่วนผสมที่เรียกว่า ‘โพลาไรซ์เพลต’ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงสะท้อนทำให้มองแล้วไม่รู้สึกถึงความพร่ามัว และยังช่วยตัดแสงที่ทำมุม 45 องศาที่เข้ามากระทบกับดวงตาได้อีกด้วย ซึ่งเลนส์ประเภทนี้จะเหมาะกับผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดจ้าเป็นเวลานานๆ เช่น คนขับรถ เล่นกีฬา หรือทำงานกลางแจ้ง

 
            ส่วนเลนส์สีน้ำตาลและสีอำพัน จะเหมาะกับสภาพแดดจ้า แบบชายทะเล หรือแดดบนภูเขา เลนส์สีนี้จะช่วยให้มองเห็นโครงร่างต่างๆ ของวัตถุได้อย่างชัดเจน มองสีและแสงดูได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้ในวันที่บรรยากาศขมุกขมัวมีหมอกจัด แว่นชนิดนี้จะทำหน้าที่เสมือนไฟตัดหมอกของรถยนต์ ทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้อย่างชัดเจนขึ้น
ใน ขณะที่โทนสีสดใสอย่าง เลนส์สีชมพูกุหลาบ สีเหลือง และสีเขียว ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับใบหน้าผู้สวมนั้นก็สามารถช่วยกรองแสง และใช้ได้ดีกับการเล่นกีฬากลางแจ้งเช่นกัน


    เมื่อทราบแล้วว่าแว่น กันแดดชนิดไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ก็อย่าลืมซื้อหามาใส่กัน เพื่อให้ดวงตาคู่งามๆ นี้ สดใสและอยู่คู่กับเราไปทุกๆ หน้าร้อน และตลอดไปไง   ครับผม


 

เลนส์โพลาไรซ์  (Polarize ) คืออะไร

     เลนส์โพลาไรซ์   เป็นเลนส์ที่ช่วยตัดแสงสะท้อนในแนวราบครับ เช่นแสงที่สะท้อนจากกระจกรถยนต์ บางส่วน  การตัดแสงจะมากหรือน้อย   ขึ้นอยู่กับมุมของดวงอาทิตย์ ที่ทำกับวัตถุที่สะท้อนแสงออกมา เช่นเมื่อมองกระจกใสที่หน้าร้านค้าในตอนกลางวัน  บางทีจะเห็นเงาของวัตถุที่ อยู่ด้านหน้าเช่น คน รถยนต์ ต้นไม้ สะท้อนอยู่ในกระจก แต่พอใส่แว่น เลนส์โพลาไรซ์ แล้วจะสามารถมองทะลุไปได้โดยไม่มีแสงสะท้อน ผลพลอยได้ข้างเคียงที่เพิ่มมาก็คือจะเห็นต้นไม่มีใบสีเขียวมากขึ้น และฟ้าจะเป็นสีฟ้าเข้มครับ (ดังภาพข้างล่างครับผม)






เลนส์ปรับแสง 
Ray Ban Shooter Gold Frame 62mm
Auto lenses. Made in USA in the 1985

     เลนส์ ปรับแสงเป็นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนความเข้มของสีเลนส์ได้ตามควา มเข้มของแสง ที่ได้รับ และสีของเลนส์จะจางลงเมื่อเข้ามาสู่ที่ร่มเพราะในเนื้อวัสดุของเลนส์จะผสม สารซิลเวอร์ฮาไลด์ ซึ่งไวต่อแสงแดด และรังสี UV เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งควบคู่กับการทำงานในออฟฟิศ และผู้ที่ต้องการใส่แว่นอันเดียวตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นเลนส์แก้ไขปัญหาสายตาและเป็นแว่นกันแดดได้ในเวลา เดียวกัน
- ปรับเปลี่ยนสีได้เข้มมากน้อยขึ้นอยู่ความเข้มของแสง
- เปลี่ยนสีให้จางลง เมื่อเข้ามาในร่ม 15 วินาที
- ปรับเปลี่ยนสีได้ทั้งสีเทา , สีชา
- สามรถป้องกันรังสี UV จากแสงแดด
- เพิ่มคุณสมบัติพิเศษได้ โดยเคลือบสาร MULTICOATED
- มีทั้งเนื้อวัสดุกระจกและพลาสติก  
Ray Ban Vintage GoldFrame Standard 58mm
Auto lenses. Made in USA in the 1989



สีเลนส์มีประโยชน์อย่างไร
1. สีเทา - ให้ความรู้สึกสบายตา - ลดความจ้าของแสง
2. สีควันบุหรี่ - ให้ความรู้สึกสบายตา - ลดความจ้าของแสง
3. สีเขียว - ช่วยผ่อนคลายการเพ่งให้ตา
4. สีน้ำตาล - ไม่ช่วยลดความจ้าของแสง เลือกสีเลนส์ที่เหมาะกับการแต่งกาย
BLUE
• สีฟ้าใสสร้างความรู้สึกคล่องแคล่ว สดใส
• เสริมสร้างบุคลิกของผู้ประสบความสำเร็จให้โดดเด่น
• เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งตัวโทนสีฟ้า ม่วง ชมพู หรือเทา
PURPLE
เน้นความรู้สึกโก้หรู สง่างาม
ช่วยอำพรางริ้วรอยไม่พึงปรารถนารอบดวงตา
เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งตัวโทนสีฟ้า ม่วง ชมพู หรือตามแฟชั่น
PINK
ให้ความนุ่มนวล เปล่งปลั่ง แก่บริเวณรอบดวงตา
ช่วยอำพรางความลึกของดวงตา และริ้วรอยตามธรรมชาติ
เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งตัวโทนสีฟ้า ม่วง ชมพู หรือเทา 

BROWN
ให้ความเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส และเวลา
เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งตัวโทนสีน้ำตาล เขียว ส้ม หรือเทา
GRAY
เสริมสร้างบุคลิกให้แลดูเข้มแข็ง และหลักแหลม
เหมาะกับกิจกรรม กีฬา ธุรกิจ และโอกาสต่าง ๆ
เข้าได้กับการแต่งกายในทุก ๆ สี
GREEN
ให้เอกลักษณ์เฉพาะตัว
เหมาะกับการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง
เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งตัวโทนสีน้ำตาล เขียว เหลือง ส้ม หรือเทา 2 กลุ่มสีร่วมสีสันแฟชั่นชาย สีร่วม คือปัจจัยสำคัญสำหรับแฟชั่นชาย ที่เหมาะกับการแต่งตัวไม่ว่าอย่างเป็นทางการ หรือตามสบาย
BLUE & GRAY
ให้ความรู้สึกคล่องแคล่ว หลักแหลม เต็มไปด้วยความสำเร็จ
BROWN & GRAY GREEN & GRAY
เสริมสร้างบุคลิกให้เคร่งขรึม แต่โก้หรู ทุกโอกาสและเวลา


คำแนะนำก่อนเลือกซื้อแว่นกันแดด

      แสงสว่างช่วยให้นัยน์ตาของมนุษย์ สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ แต่ก็สามารถทำอันตราย ต่อนัยน์ตามนุษย์ ได้เช่นเดียวกัน รังสีอุลตร้าไวโอเลต UV ในแสงสว่าง มีส่วนสำคัญในการทำลายกระจกตา (cornea) และเรตินา (retina) เช่นเดียวกับแสงที่มีความสว่างมากเกินไป อาจทำให้ผู้มองเกิดอาการตาบอดชั่วคราวหรือถาวร การสวมแว่นกันแดดเป็นวิธีหนึ่ง ในการป้องกันนัยน์ตาเราจากอันตรายดังกล่าวนี้ได้ ปัจจุบันแว่นกันแดด มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป สนนราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่อันละไม่กี่สิบบาทที่วางขายตามแผงแบกะดิน เรื่อยไปจนถึง แว่นอันละหลายพันบาท ที่ขายในห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายแว่น เชื่อว่าหลายท่าน คงสงสัยว่าอะไร ทำให้ราคาแตกต่างกัน และแว่นกันแดดราคาแพงมีคุณภาพดีกว่าแว่นราคาถูกๆ อย่างที่โฆษณากันจริงหรือไม่
         แว่นกันแดดที่ดีควรมีลักษณะเป็นอย่างไร? แว่นกันแดดมีหน้าที่ป้องกันนัยน์ตา จากสิ่งต่อไปนี้ รังสีอุลตร้าไวโอเลต แสงที่มีความเข้มสูง แสงจ้า (glare) ที่เกิดจากการสะท้อน ของแสงบนผิววัสดุ ที่มีความมันวาว และอาจทำให้เกิดอาการตาพร่าชั่วขณะ รวมถึงเพิ่มความตัดกัน (contrast) ของการมองเห็นในบางภูมิประเทศด้วย แว่นที่ดีควรมีสมบัติดังกล่าวนี้ ครบถ้วนหรือมากที่สุด แว่นกันแดดที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากจะไม่ช่วยป้องกัน นัยน์ตาของคุณแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น เช่น แว่นกันแดดบางชนิด อาจป้องกันได้เฉพาะแสงสว่าง แต่ไม่ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต เมื่อสวมแว่นชนิดนี้ ม่านตาจะสามารถเปิดรับแสงมากขึ้น ซึ่งทำให้รังสีอุลตร้าไวโอเลต เข้าสู่นัยน์ตามากขึ้นตามไปด้วย โดยทั่วไป หลักใหญ่ๆ ในการเลือกซื้อแว่นกันแดด ได้แก่
        วัสดุที่ใช้ทำเลนส์ ปัจจุบันมีทั้งเลนส์แก้วและเลนส์พลาสติก เช่น เรซินแข็ง โพลิคาร์บอเนต เลนส์พลาสติก มีน้ำหนักเบา และทนต่อการกระแทก ได้ดีกว่าเลนส์แก้ว แต่มีความแข็งต่ำ เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย จึงต้องมีการเคลือบผิว เพื่อป้องกันการขีดข่วน ซึ่งทำให้ราคาสูงขึ้น
        คุณภาพเชิงทัศนศาสตร์ เลนส์ที่ดีต้องไม่ทำให้เกิดความบิดเบี้ยว หรือกระจายสีรุ้ง วิธีการตรวจสอบ ความบิดเบี้ยวทำได้ง่ายๆ โดยการจ้องมองเลนส์ข้างหนึ่ง ไปยังภาพวัตถุที่เป็นเส้น (เช่น แนวเส้นกระเบื้องปูพื้น) จากนั้นขยับแว่นช้าๆ เลนส์ที่ดีต้องไม่ทำให้เส้นตรงดังกล่าว เกิดการคดงอในขณะที่ขยับแว่น
    การตัดแสง ปัจจุบันสามารถผลิตเลนส์ที่สามารถลดความเข้มแสงได้สูงถึง 97% ซึ่งเหมาะกับการใช้งาน ที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่มีความสว่างมาก เช่น นักปีนเขาหรือผู้เล่นสกีหิมะ สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป เช่น การเดินเล่นตามชายหาด หรือขับรถ เลนส์ที่ตัดแสงได้ 70-90% ก็นับว่าเพียงพอแล้ว
    สีของเลนส์ เลนส์แว่นกันแดดมีให้เลือกหลายสี ซึ่งแต่ละสีก็เหมาะกับ การใช้งานในสภาพต่างกันไป เช่น เลนส์สีชา (amber) และสีเทาดำ เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป เลนส์สีเหลืองหรือทอง เหมาะกับการใช้ ในภูมิประเทศที่มีหิมะ ขณะที่เลนส์สีม่วงหรือสีกุหลาบ เหมาะกับใช้ในการเดินป่าล่าสัตว์ หรือเล่นกีฬาทางน้ำ เป็นต้น
            หวังว่าข้อมูลดังกล่าวนี้ คงช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อ แว่นกันแดดที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้
 
 ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จาก : http://rkshop.multiply.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น